Breaking News

เงินบาทเปิด 34.05 อ่อนค่าในรอบเกือบ 6 ปีตามยูโร หลังยังกังวลหนี้กรีซ นักบริหารเงิน เปิดเผยว่า เงินบาทเปิดตลาดเช้านี้อยู่ที่ระดับ 34.05 บาท/ดอลลาร์ อ่อนค่าต่อจากช่วงเย็นวานนี้ที่ปิดตลาดที่ระดับ 33.99 บาท/ดอลลาร์ โดยเป็นการอ่อนค่าสุดนับตั้งแต่ ก.ย.2552 ล่าสุดเงินบาทอ่อนค่าไปอยู่ที่ 34.10 บาท/ดอลลาร์ โดยวันนี้เงินบาทยังมีโอกาสอ่อนค่าได้ต่อ ตามค่าเงินยูโรที่อ่อนค่าลงต่อเนื่องจากความกังวลปัญหาวิกฤติการเงินของกรีซ ในขณะที่สกุลเงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้นหลังจากตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐออกมาดี" บาทคงอ่อนค่าต่อตามทิศทางของยูโร เพราะยังกังวลปัญหาของกรีซที่ยังไม่มีความแน่นอน ขณะที่ดอลลาร์ก็แข็งค่าเมื่อเทียบกับยูโร เพราะตัวเลขเศรษฐกิจออกมาดี" นักบริหารเงิน ระบุนักบริหารเงิน คาดว่า วันนี้เงินบาทจะเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบ 33.95-34.10 บาท/ดอลลาร์

สหรัฐเรียกร้องกรีซมุ่งมั่นปฏิรูปเศรษฐกิจ พร้อมแนะเจ้าหนี้สรุปข้อตกลงแบบยั่งยืน ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ทำเนียบประธานาธิบดีสหรัฐได้ออกโรงเรียกร้องกรีซให้ปฏิบัติตามคำมั่นที่จะปฏิรูปเศรษฐกิจของประเทศ พร้อมกับแนะให้กลุ่มเจ้าหนี้ของกรีซทำข้อตกลงเพื่อให้กรีซสามารถคงอยู่ในกลุ่มยูโรโซนต่อไปได้ เลขาธิการด้านสื่อมวลชนของทำเนียบขาวกล่าวว่า การให้ความช่วยเหลือทางการเงินและการปฏิรูปจะช่วยให้กรีซสามารถเดินต่อไปได้ หรืออย่างน้อยก็ทำให้หนี้ของกรีซไม่ปรับตัวสูงขึ้นไปมากกว่านี้เลขาธิการด้านสื่อมวลชนฯ กล่าวว่า นับเป็นเรื่องสำคัญที่กรีซจต้องปฏิรูป และทำตามคำมั่นที่เคยให้ไว้ก่อนหน้านี้

Investor Services

Money Investment
การลงทุนในเงินตราต่าง ๆ ที่รวม อัตราแลกเปลี่ยนเงิน รวมถึงการเก็งกำไรค่าเงิน ในประเทศและต่างประเทศ
  Detail
Gold Investment
การลงทุนในทองคำ ที่มีในรูปแบบทั้งทองคำของจริงหรือว่าจะเป็นสัญญาซื้อขายทองคำ
  Detail
Property Investment
การลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ ไม่ว่าจะเป็น บ้าน ที่ดิน รวมถึงทรัพย์สินที่มีหลักฐานชัดเจน
  Detail
Stock Investment
การลงทุนในหุ้น รวมไปถึงการใช้สิทธ์ และสัญญาในการซื้อขายล่วงหน้า และออปชันต่างๆ
  Detail

Media of the day

คลิปวีดีโอแนะนำในวันนี้ เกี่ยวกับการลงทุนแบบ Value Insestor โดยกูรูหุ้นของไทย ดร.นิเวศน์ เหมวชิรวรากร โดยเนื้อหาคือ นอกจากทฤษฎีตลาดหุ้นที่มีประสิทธิภาพแล้ว เราก็ควรที่จะต้องเรียนรู้แนวความคิดของการลงทุนในสไตล์ต่าง ๆ ที่มีการอ้างกันว่าสามารถที่จะทำให้นักลงทุนสร้างผลตอบแทนที่เหนือกว่าปกติได้เช่น การลงทุนแบบ “Value Investing” หรือ VI หรือการลงทุนแบบ “Growth Investing” หรือการลงทุนในหุ้นโตเร็ว หรือแม้แต่การลงทุนแนว “Momentum” หรือแนว “เทคนิค” เพื่อที่ว่าเราจะได้รู้และเข้าใจว่าแต่ละแนวทางมีข้อดีข้อเสียและข้อจำกัดอย่างไรและเราจะเลือกแนวทางไหนในการลงทุน ความรู้ทางธุรกิจที่จะช่วยให้เราเข้าใจว่าอุตสาหกรรมหรือบริษัทไหนดีหรือแย่นั้น ส่วนใหญ่เป็นเรื่องเกี่ยวกับการตลาด ความรู้ทางด้านการตลาดที่ผมคิดว่าสำคัญสำหรับการเลือกอุตสาหกรรมหรือหุ้นนั้น จะเป็นเรื่องของ “ความสามารถหรือกลยุทธ์ในการแข่งขัน” ซึ่งน่าเสียใจว่าส่วนใหญ่มักจะไม่ใคร่ได้สอนกันในชั้นเรียนของ MBA ดังนั้น วิธีที่ดีก็คืออ่านจากหนังสือการตลาดที่เกี่ยวกับ “กลยุทธ์” หรือ “ตำแหน่ง” ทางการตลาด หรือ “Business Model” หรือรูปแบบการทำธุรกิจ ของบริษัทแต่ละแห่ง

Investment Center Map

ติดตามความเคลื่อนไหวได้ทาง Facebook